ทำหมื่นสี ทำตำนานผ้าให้มีชีวิต

โครงการผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง

ประวัติศาสตร์กว่า 200 ปี ของแหล่งทอผ้าที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ กับลายผ้าดั้งเดิมมากถึง 39 ลาย ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสานต่อยอดความรักด้วยความรัก

เรื่องราวผ้าทอนาหมื่นศรีเล่าขานกันว่าสมัยก่อนหญิงสาว 1 คนจะทอผ้า 3 ผืนในหนึ่งช่วงชีวิต

‘ผ้าตั้ง’ เป็นผ้าผืนแรกที่ผู้หญิงทอเป็นผ้าใส่พานเตรียมไว้สำหรับเจ้าบ่าวที่จะแต่งงานด้วย ‘ผ้าห่ม’ เป็นผ้าผืนที่สองของคนเป็นแม่ทอเป็นผ้าห่มนาคเตรียมไว้ให้ลูกชายบวช ส่วนผืนที่สาม ‘ผ้าพานช้าง’ เป็นผ้าผืนสุดท้ายที่คนเป็นย่า-ยายทอเตรียมไว้ 2 ชุด สำหรับพาดโลงศพของตนเองและสามี มีความเชื่อว่าผ้าทอผืนเล็กที่เย็บต่อกันเป็นผ้าพาดเปรียบเสมือนบันไดขึ้นสู่สวรรค์ หลังจบงานถ้าไม่ถวายผ้าทอให้พระลูกหลานจะตัดแบ่งผ้ากันเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ผ้าทอนาหมื่นศรีถือเป็นของขึ้นชื่อของ จ.ตรัง และยังเป็นการรวบรวมคนในชุมชุนมาสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างลงตัว เซ็นทรัล ทำ เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมและแนวโน้มการเติบโตของโครงการวิสาหกิจชุมชนนาหมื่นศรี จึงได้สนับสนุนการปรับปรุงอาคารพิพิธภัณฑ์และร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมผ้าทอนาหมื่นศรีให้กลายเป็นสินค้าประจำชุมชน และพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้และพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชนให้ยั่งยืน

แม้จะ “ทำได้เป็นหมื่นสี” แต่เอกลักษณ์ดั้งเดิมของผ้าทอนาหมื่นศรี คือผ้าสีแดงเหลืองมีโครงสร้างผ้าเป็นภาษาใต้ทั้งหมด มีริมตีน แม่แคร่ ลูกเกียบ ชายรุ่งริ่ง และหน้าผ้า ที่ชุมชนแบ่งผ้าออกเป็น 3 ลักษณะการใช้งาน มี ‘ผ้านุ่ง’ เป็นผ้าถุง โสร่ง และโจงกระเบน ‘ผ้าพาดหรือผ้าห่ม’ ถ้าเป็นลักษณะผืนแคบจะใช้เป็นสไบห่มทับเสื้อ แต่ถ้าเป็นลักษณะผืนกว้างจะนิยมโพกศีรษะและคาดเอว และ ‘ลูกผ้า’ ขนาดผืนจตุรัสไว้ใช้รองกราบ

ผ้าทอนาหมื่นศรีจะเน้นลวดลายจากธรรมชาติ เช่น ลายปลา ลายท้ายมังคุด ลายช่อลอกอ (ช่อมะละกอ) ฯลฯ บางลายเกี่ยวกับดอกไม้เพราะมีคำว่า ‘แก้ว’ พ่วงอยู่ด้วย เช่น ลายแก้วกุหลาบ ลายแก้วชิงดวง เป็นวงกลมสองดวงคล้องกันซึ่งถือว่ามีความซับซ้อน ช่างทอยุคใหม่ต้องแกะลายจากผ้าทอช่างครูอยู่ 2 ปี ถึงจะทอได้เหมือนต้นฉบับ

คุณค่าของผ้าทอเหล่านี้ถูกรวบรวมอยู่ในพิพิธภัณฑ์นาหมื่นศรีบนอาคารไม้ของ โรงเรือนทอผ้า เพื่อ “ทำตำนานผ้าให้มีชีวิต” เก็บเป็นมรดกโบราณที่ทรงคุณค่า

ส่วนศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรีที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่แบ่งพื้นที่การใช้งาน ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นโรงเรือนทอผ้าอยู่ด้านหน้าคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน ส่วนถัดไปเป็นร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนข้าวของเครื่องใช้จากผ้าทอสารพัดแบบ และจุดเด่นอยู่ด้านบนโรงเรือนทอผ้าเป็นพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรีที่เดินเพลินได้ความรู้ รวมทั้งได้เห็นถึงความสวยงามของผืนผ้าทอมือและศักยภาพที่ได้ผนวก เข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่

เป็นการถักทอความภาคภูมิใจจากรุ่นสู่รุ่นให้ตำนานยังคงมีชีวิตที่นาหมื่นศรี จ. ตรัง